เจ้าลูกน่ารัก!
ตั้งแต่ผมกับโทนี่เลิกกัน มันก็เหมือนเป็นกฎที่เราจะไม่คุยกันเรื่องผู้ชายที่เราไปนอนด้วยหรือออกเดตด้วยเด็ดขาด
เพราะเราต่างก็จะหึงกัน
ผมรู้ว่าเขายังชอบผมอยู่ และผมก็ยังชอบเขาเหมือนกัน แต่เขาเป็นพวกกลัวการผูกมัด มันก็เลยช่วยไม่ได้
การที่ผมบอกเขาว่าไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมามันเป็นความผิดพลาด ผมมัวแต่จดจ่ออยู่กับการอยากระบายจนลืมไปว่าคนที่ผมคุยด้วยไม่ใช่ฟลอร่า เพื่อนสนิทของผม แต่เป็นเขา
“เอ่อ... ก็ใช่” ผมตอบอย่างอึดอัดนิดๆ
นั่นไง ความหึงหวง ชัดเจนจนไม่ต้องสงสัยเลย
“อ้อ งั้นเหรอ” เขาถามพร้อมกับเลียริมฝีปาก นั่นเป็นสิ่งที่เขาทำเสมอเวลาที่เขาหึง ผมรู้จักเขาดีเกินไปแล้ว “แล้ว... เป็นไงบ้างล่ะ หมายถึงเรื่องเซ็กส์น่ะ”
“ก็ดีมั้ง” ผมตอบเรียบๆ พลางยักไหล่ ทำหน้านิ่งๆ พยายามไม่ทำให้เขาหึงไปมากกว่าที่เป็นอยู่
“เฮ้! ทางนี้ขอเหล้าเพิ่มหน่อย!” เสียงหนึ่งตะโกนมาจากในฝูงชน
“เดี๋ยวมานะ” โทนี่พูดแล้วก็เดินจากไป
ผมถอนหายใจแล้วรินเหล้าใส่แก้วเพิ่ม ในหัวยังคงคิดถึงเจ้านายคนใหม่ไม่หยุด ผมต้องเลิกคิดถึงเขาสักทีแต่ก็ทำไม่ได้ เหมือนกับว่าเขาทำเสน่ห์ใส่ผมอย่างจัง
ผมกระดกเหล้าเข้าปาก แล้วก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องผมมาจากอีกฝั่งของบาร์
เขารีบหลบตาทันทีที่เราสบตากัน
ผมยิ้ม ผมมองแวบเดียวก็รู้ว่าใครเป็นเกย์
บางทีผมอาจจะต้องหาใครสักคนนอนด้วย ถ้าทำแบบนั้น ความคิดเรื่องเจ้านายจะได้หายไปจากหัวเสียที
ผมเลื่อนตัวลงจากเก้าอี้บาร์แล้วเดินตรงไปหาเขา
“เฮ้” ผมทักเขา
“เฮ้” เขาตอบ เขาน่ารัก ผิวสีแทน และหัวล้าน
“ผมเห็นคุณจ้องผมอยู่”
“เหรอ” เขาถามพลางเลิกคิ้ว “อืมม ก็คงเพราะผมว่าคุณน่ารักดีล่ะมั้ง”
ผมส่งยิ้มยั่วให้เขา ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วขยำก้นเขา “ไปจากที่นี่กันไหม”
เขายิ้มตอบแล้วพยักหน้า “ห้องผมอยู่ตรงหัวมุมนี่เอง”
ทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ผมเลิกคิดถึงเจ้านายได้
เราออกจากบาร์แล้วไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขาซึ่งอยู่ตรงหัวมุมเหมือนที่เขาบอก ภายในเวลาไม่กี่นาที เราทั้งคู่ก็เปลือยเปล่าอยู่บนเตียงของเขา ผมอยู่ข้างบน ส่วนเขาอยู่ข้างใต้ ขาของเขาเกี่ยวรอบเอวผมไว้ นิ้วของเขาจิกเข้ามาในผิวหนังของผมขณะที่ผมกระแทกกระทั้นเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงครางและคำสบถอย่างสุขสมของเขา มือของเขาวนอยู่รอบคอผม ลิ้นของเราเริงระบำอยู่ในปากของกันและกัน
แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงไม่ได้รู้สึกดีกับมันเท่าที่คิดไว้เลย
ในหัวผมเอาแต่คิดวนกลับไปเรื่องของเชน เวลส์ และมันทำให้ผมโคตรโมโห ผมโกรธตัวเองที่มัวแต่คิดถึงเขา
เขาทำบ้าอะไรกับผมวะเนี่ย เหตุผลเดียวที่ผมอยากจะมีเซ็กส์ก็เพื่อที่จะสลัดเขาออกจากหัว แต่ตอนนี้ผมกลับกำลังมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าแต่ในหัวกลับมีแต่เรื่องของเขา
แม่งโคตรน่าโมโหเลย! ผมต้องลาออกจากงานนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม! ไม่งั้นผมต้องบ้าแน่!
“คุณโอเคหรือเปล่า” ชายคนนั้นถาม เสียงของเขาดึงผมออกจากภวังค์
ชิบหาย! ผมหยุดซอยไปเฉยเลย!
“โอ้! ผมไม่เป็นไร” ผมรีบลงจากตัวเขาอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ผมเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม
“มึงนี่มันประหลาดชิบหายเลยว่ะ” เขาถ่มน้ำลายพูด
ผมทำได้แค่พูดขอโทษแล้วคว้ากระเป๋าเผ่นกลับบ้านทันที ในที่สุดก็ดีใจที่ได้กลับถึงบ้าน
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วผล็อยหลับไป
ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบๆ ผมรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า แสงแดดยามเช้าสาดส่องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่กลางห้องของผม
กี่โมงแล้ววะเนี่ย ผมเหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง ชิบหาย! สิบโมงครึ่งแล้ว! สายแล้ว!
ผมรีบดีดตัวลุกขึ้น วิ่งไปที่ห้องน้ำแต่ก็หยุดชะงัก
เดี๋ยวนะ... แบบนี้อาจจะดีก็ได้
ถ้าผมไปสาย ไม่ใช่แค่วันนี้แต่ทุกวัน เขาอาจจะรำคาญจนไล่ผมออกก็ได้! ผมอยากโดนไล่ออก
ผมหาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วก็เห็นว่าเขามีสายที่ไม่ได้รับจากเขาถึงสิบห้าสาย ผมแสยะยิ้ม เออ โทรมาเลย
ในเมื่อไม่อยากจะไล่กูออกนัก กูก็จะไปทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจกู
ผมใช้เวลาทำอาหาร กินข้าว อาบน้ำ และแต่งตัวอย่างสบายอารมณ์ กว่าจะเสร็จก็สิบเอ็ดโมงสิบห้าแล้ว ผมกำลังจะเดินไปที่ประตูตอนที่กริ่งหน้าห้องดังขึ้น
หัวใจผมแทบจะหลุดออกมาจากอก ปากก็อ้าค้างเมื่อเปิดประตูออกไปแล้วเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น รังสีอำมหิตของเขาเย็นยะเยือกและดูเหมือนจะโกรธจัด
เขาคว้าคอเสื้อผมแล้วผลักผมกลับเข้ามาข้างใน ผมร้องลั่นและพยายามจะดิ้นให้หลุด แต่มันเปล่าประโยชน์ เขาแข็งแรงเกินไป
เขาเหวี่ยงผมกระแทกกำแพงแล้วจ้องมองอย่างเกรี้ยวกราด “มึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วกูจะไล่มึงออกเหรอ?!” เขาคำรามอย่างดุร้าย
ผมพยายามจะพูดแต่แรงบีบที่คอทำให้ผมพูดไม่ออก ไอ้เวรนี่กำลังจะบีบคอผมให้ตายคาที่!
“มึงเป็นลูกจ้างของกู!” เขาคำรามช้าๆ เสียงลอดไรฟัน พระเจ้า เขาดูน่ากลัวมาก! “มึงเซ็นสัญญาบ้านั่นด้วยตัวเอง! ไม่มีใครบังคับมึง! เพราะฉะนั้นมึงต้องทำงานให้กูต่อไปจนกว่าแม็กกี้จะหายดี! ถ้ามึงเล่นเหี้ยๆ แบบนี้อีกครั้ง มึงได้เสียใจแน่ เข้าใจที่กูพูดไหม?!”
ผมรีบพยักหน้าแล้วเขาก็ปล่อยผม ผมทรุดลงไปกองกับพื้น มือยกขึ้นกุมคอ หอบหายใจอย่างแรง
เขายืนค้ำหัวผม “ทีนี้ก็ลุกขึ้น ไปทำงานกันได้แล้ว”
ผมจ้องเขาเขม็ง กัดริมฝีปากตัวเองแรงจนเลือดซิบ ไอ้สารเลวเอ๊ย! มึงคิดว่าจะบุกมาถึงบ้านกูแล้วมาข่มขู่กูได้เพียงเพราะกูเซ็นสัญญาจ้างงานโง่ๆ นั่นเหรอ?!
ผมไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ผมตะเกียกตะกายลุกขึ้นแล้วซัดหมัดเข้าที่ข้างใบหน้าของเขาเต็มแรงจนเซถอยหลังไป
ดูจากสีหน้าของเขาแล้ว ผมบอกได้เลยว่าเขาไม่คิดแม้แต่น้อยว่าผมจะเอาคืน
แค่เพราะเขาตัวใหญ่กว่าผมไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมถอยในการต่อสู้ เราต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ “มึงไม่น่าทำแบบนี้เลย”







































